วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อุปสรรค์การนำข่าวประเสริฐไปสู่ทุกตำบลจังหวัดชัยนาท

จังหวัดชัยนาทเป็นจังหวัดหนึ่งของภาคกลางตอนบน ซึ่งประกอบด้วยจังหวัด อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ และชัยนาท   ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ได้เผยแพร่เข้ามาจังหวัดชัยนาท โดยทางเรือ ซึ่งมีคณะมิชชั่นนารีร่วมกับคนไทยประกาศข่าวประเสริฐ และได้ก่อตั้งโรงพยาบาล ซึ่งขณะนั้นรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อน  ปัจจุบันโรงพยาบาลแห่งนี้ถูกปิดไปแล้วเนื่องจากขาดสภาพคล่องการเงินและบุคคลากรทางการแพทย์  กิจการงานส่วนใหญ่อยู่ในความรับผิดชอบดูแลของกลุ่มคณะโอเอ็มเอฟมิชชั่นที่มีคริสตจักรตั้งกระจายอยู่ทั่วไป ปัญหาอุปสรรค์ 1.คือคริสตจักรส่วนใหญ่ไม่เข้มแข็ง 2.ขาดศิษยาภิบาล 3.ผู้นำผูกขาดกับคริสตจักรของตนเอง ต่างปกครอง(ครอบครอง)ตนเอง ประกาศด้วยตนเอง และเลี้ยงตนเอง แต่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นอุปสรรค์ใหญ่หลวงที่ปิดกั้นกักตนเอง เลือกทำงานปฎิบัติกับแนวทางของตนเอง ผู้มีอำนาจก็สร้างฐานให้กับตนเอง ยกตนเองขึ้นมาเป็นผู้นำทั้งๆที่ไร้ความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ  4.ผู้รับใช้ต่างมุ่งทำงานของตนเองมากกว่าที่จะร่วมมือกัน 5.ห่วงแหนอำนาจ(ผลประโยชน์)ของตนในคริสตจักร 6.ความไม่สัตย์ซื่อที่ถูกเพาะพันธ์มาแต่อดีต 7.แย่งชิงอำนาจ และวัดคุณภาพกันด้วยคำเทศนาการสอนพระคัมภีร์ 8.ไม่มีจินตนาการสร้างสรรค์งานประกาศ 9.การบริหารปกครองของผู้นำคริสตจักรที่ไร้ประสิทธิภาพ 10.ขาดการพัฒนาสร้างเครือข่ายร่วมกันรับใช้พระเจ้ากับคริสตจักรอื่นๆ 11.มุ่งปริมาณมากกว่าคุณภาพในการสร้างสาวก 12.ผู้นำพอใจกับการถวายสิบลด และเงินถวายพิเศษในโอกาสต่างๆจากคริสเตียน (สมาชิกคริสตจักร) 13.การพบปะระหว่างผู้นำคริสตจักรด้วยกันไม่มี 14.ปัญหาเกิดขึ้นกับคริสตจักรหลายๆแห่งเนื่องจากคริสเตียนไม่ยอมให้อภัยกัน การรื้อฟื้นความผิดของคนอื่น และจ้องทำลายกันเอง 15.การดำเนินชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณขาดกำลัง ฤทธิ์เดช ความรัก ความร่วมมือ การแบ่งปัน 16.คริสเตียนส่วนใหญ่จะไม่มีความสัมพันธ์กันเลย 17.แบ่งกลุ่มแบ่งคณะกัน 18.ทำงานเฉพาะของตนเองเท่านั้น  19.ผู้นำไม่มีวิสัยทัศน์ 20.ผู้นำสร้างทีมงานเฉพาะที่ตนเองชื่นชอบเป็นส่วนตัวมากกว่าที่จะอธิษฐานทูลขอการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเลือกทำงานกับคนที่สามารถสั่งการได้เท่านั้น 21.คริสตจักรบางแห่งคาดหวังในตัวศิษยาภิบาลค่อนข้างสูงลิบลิ่ว  22.การเปิดรับสมัครศิษยาภิบาลของคริสตจักรตั้งเงื่อนไขที่สูงมาก และมักจะดูแคลนไม่ให้เกียรติผู้รับใช้ 

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553

ประกาศข่าวประเสริฐทั่วไทย

ร่วมรับใช้ สานต่อพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ "เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทะ  สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกท่านไว้ ดูเถิด เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นโลก"  มัทธิว 28:19-20
 

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

ชมรมคนมีพระพร


ชมรมคนมีพระพร
วัตถุประสงค์
1.แบ่งปันพระพรแก่เพื่อบ้าน
2.นำสันติสุขความรักของพระเยซูสู่มวลมนุษย์
3.รวมพลคนมีพระพร
4.เสริมสร้างซึ่งกันและกันให้มีพระพรอย่างยั่งยืน
5.สนับสนุนพันธกิจงานรับใช้พระเจ้าทั่วไทย

สถานที่ตั้งชมรมคนมีพระพร
ที่อยู่ 219/27 หมู่ที่ 3 หมู่บ้านเพชรไพริน  ต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท 17130
โทร 080-7895164 e-mail:wannawong@gmail.com
ลักษณะกิจกรรม
1.นัดพบคนมีพระพร เพื่อสามัคคีธรรมร่วมกัน นมัสการพระเจ้าสัปดาห์ละครั้ง หรือแล้วแต่โอกาสพิเศษ
2.เยี่ยมเยียนติดตามเพื่อหนุนใจผู้ลำบากเหน็ดเหนื่อย คนเจ็บป่วย และผู้สูงอายุ หญิงหม้าย เด็กกำพร้า
3.ด้านสังคมสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือให้กับคนยากจน ขัดสน ตามกำลังและความจำเป็นพื้นฐานชีวิต
4.ทำงานกับเด็กเยาวชน เปิดสอนศิลปะ งานประดิษฐ์ และภาษาตามแหล่งชุมชน
5.จัดอบรมสอนเสริมงานอาชีพให้กับสตรี เด็กเยาวชน และผู้สูงอายุ
6.จัดพบกลุ่มนักธุรกิจ เจ้าของผู้ประกอบการ เพื่อพบปะสังสรรค์
7.จัดเลี้ยงอาหารฟรีแก่ผู้ขาดโอกาสในสังคม
8.ร่วมสนับสนุนคริสตจักรต่างๆที่ขาดผู้รับใช้ โดยไปร่วมนมัสการ เทศนา อบรมสอนพระคัมภีร์
9.จัดล่องเรือไปตามแม่น้ำท่าจีน เพื่ออธิษฐาน นมัสการ และประกาศข่าวดี

บทความสรุป เรื่อง สัตย์ซื่อต่อความรับชอบของเรา โดย ดร.บิลลี่ เกรแฮม

ความรับผิดชอบของคริสเตียน เปรียบเหมือนการแข่งขัน
เราจะเห็นใบหน้าที่สดชื่นและกระตือรือร้นของผู้ร่วมชิงชัย เมื่อเสียงปืนบอกสัญญาณเริ่มการแข่งขันดังขึ้น แต่ระหว่างเส้นทางที่ยากลำบาก ผู้ร่วมแข่งขันจะเลิกล้มไปทีละคน    ครั้งแล้งครั้งเล่าที่พระคัมภีร์ชี้ความสนใจของเราไปยังความสัตย์ซื่อที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา และชีวิตเหนือธรรมชาติที่พระองค์ทรงให้ก่อเกิดขึ้นในเราโดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์  ฟป.1:6 เป็นข้อพระคัมภีร์ประจำใจข้อหนึ่งของผม  "ข้าพเจ้าแน่ใจในสิ่งนี้ว่า พระองค์ผู้ทรงตั้งต้นการดีไว้ในพวกท่านแล้ว จะทรงกระทำให้สำเร็จจนถึงวันแห่งพระเยซูคริสต์"
ความสัตย์ซื่อของพระเจ้าที่มีต่อเราคือสิ่งที่หนุนนำและให้พลังแก่ความสัตย์ซื่อที่เรามีต่อพระองค์ แต่ความสัตย์ซื่อต่อพระคริสต์และการรับใช้ที่เรามีต่อพระองค์ก็เป็นสิ่งสำคัญ พระคัมภีร์เตือนใจเราว่า คนที่ได้รับความไว้วางใจต้องพิสูจน์ตนด้วยความสัตย์ซื่อ และเรารู้ว่าความสัตย์ซื่อตามอย่างพระคัมภีร์เป็นอะไรที่มากกว่าการแสดงตนเป็นคริสเตียนในการทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
เครื่องหมายแห่งความสัตย์ซื่อ 4 ประการ  4 สิ่งควรสำแดงถึงความสัตย์ซื่อที่เรามีต่อพระคริสต์
1.ความชื่นชมยินดี  ความชื่นชมยินดีรในพระเจ้าซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานให้นั้น เป็นความชื่นชมยินดีเหนือธรรมชาติที่พระองค์ประทานมาเพื่อช่วยเราอดทนได้
2.ความเมตตาสงสาร   องค์กรของเราพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยคนที่ตกทุกข์ในโลกนี้ ที่ใดก็ตามที่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นเราจะพยายามไปช่วยเหลือเขา นี่คืองานของเราที่คนส่วนมากไม่รู้ เมื่อมีคนบริจาคสมทบกองทุนนี้แม้แต่บาทเดียว เงินบริจาคทั้งหมด 100% จะใช้เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ ซึ่งเราได้เริ่มมีกองทุนนี้มาหลายปีแล้ว    อัครสาวกของพระเยซูคริสต์คือท่านเปโตรได้กล่าวว่า "ในที่สุดนี้ ท่านทั้งหลายจงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นอกเห็นใจ รักกันฉันพี่น้อง มีจิตใจอ่อนโยน มีใจสุภาพ" เราต้องมีใจเมตตา
3.วิสัยทัศน์ พระเยซูพยายามที่จะยกระดับวิสัยทัศน์ของสาวกของพระองค์ตลอดเวลา พระองค์ทรงรู้ว่าวันที่ยากลำบากกำลังจะมาถึงและพระองค์ก็ทรงรู้ว่าเหล่าสาวกจะต้องเผชิญสิ่งใด    สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการดำเนินชีวิตกับพระคริสต์ทุกๆวันซึ่งเริ่มต้นด้วยการใช้เวลาตามลำพังกับพระเจ้า
4.การอุทิศตน   มาระโก 10  เราพบว่าพระเยซูคริสต์ทรงพบกับเศรษฐีหนุ่มคนหนึ่ง คุกเข่าลงต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์ "ท่านอาจารย์ผู้ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะทำประการใดจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์เป็นมรดก" เมื่อพระเยซูทรงตอบด้วยพระบัญญัติหลายประการเศรษฐีหนุ่มทูลว่า "ข้อเหล่านั้นข้าพเจ้าได้ถือรักษาไว้ตั้งแต่เป็นเด็กมา"  พระเยซูทรงเพ่งดูเขา ก็ทรงรักเขา แล้วตรัสแก่เขาว่า "ท่านยังขาดอยู่สิ่งหนึ่ง จงไปขายบรรดาสิ่งของซึ่งท่านมีอยู่ แจกจ่ายให้คนอนาถา..." แล้งจงแบกกางเขนและตามเรามา"  เมื่อเศรษฐีได้ยินคำนั้นก็เสียใจแล้วออกไปเป็นทุกข์  ...เขาทุกข์ใจเพราะเขาติดยึดกับทรัพย์สมบัติที่มีอยู่มากมาย


ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
พันธกิจข่าวประเสริฐลุ่มแม่น้ำท่าจีน
219/27 หมู่ที่ 3 ต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท 17130
โทร 080-7895164

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

บรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน

ลองดูภาพบรรยากาศแม่น้ำท่าจีน




ข่าวประเสริฐลุ่มแม่น้ำท่าจีน
โปรดอธิษฐานเผื่อพันธกิจล่องเรือประกาศข่าวประเสริฐไปตามแม่น้ำท่าจีน

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

โครงการเรือข่าวประเสริฐล่องแม่น้ำท่าจีน

แม้ข้าพระองค์จะชราและผมหงอกก็ตาม
ข้าแต่พระเจ้าขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ไปเลย
ข้าพระองค์จะประกาศถึงพระอานุภาพของพระองค์แก่คนรุ่นต่อไป
และประกาศถึงฤทธิ์อำนาจของพระองค์แก่ผู้ที่จะเกิดมา
 สดุดี71:18
 


(1) เรือโนอาห์จำลอง สร้างจากเรื่องจริงในพระคัมภีร์

(2) สภาพภายในเรือโนอาห์(ยุคใหม่)


โนอาห์ได้รับบัญชาจากพระเจ้าให้สร้างเรือก่อนที่จะให้น้ำท่วมโลก

พันธกิจประกาศข่าวประเสริฐลุ่มแม่น้ำท่าจีน นิมิตของเราคือ โครงการประกาศข่าวประเสริฐทางเรือ ล่องไปตามแม่น้ำท่าจีน  โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำข่าวประเสริฐไปยังทุกบ้านที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำท่าจีน และบริการพี่น้องผู้รับใช้ทุกท่านที่ต้องการนมัสการพระเจ้า อธิษฐาน หรือเพื่อจัดกลุ่มรีทรีตล่องแม่น้ำท่าจีน ขนาดเรือบรรจุคนได้ 70-120 คน

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปี 2010 ปีแห่งผู้รับใช้



ทำไมต้องสาวกแท้! พระเยซูเจ้าทรงตระหนักถึงชีวิตที่เป็นแบบอย่าง (อฟ.5:1) "จงเลียนแบบจากเรา" สาวกแท้มิใช่เพียงอยู่เพื่อตนเอง  ซึ่งเรื่องนี้ อ.เปาโล ท่านได้กล่าวไว้ว่า   "ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า"   (กท.2:20) ตลอดชีวิตของ อ.เปาโล ท่านทุ่มเทชีวิตหลังจากที่ได้กลับใจใหม่ให้กับองค์พระเยซูคริสต์

  1. สาวกแท้คือผู้ที่เข้าสนิทในพระองค์ (ยน.15:1-17) 


  2. สาวกแท้คือผู้ที่กระทำตามน้ำพระทัยของพระองค์  (มธ.7:21) (อฟ.5:17)


  3. สาวกแท้คือผู้ที่ฟังพระบัญญชาของพระองค์ (มธ.28:18-20,มก.16:14-18)


  4. สาวกแท้คือผู้เลี้ยงดูแกะของพระองค์(ยน.21:15-19)


  5. สาวกแท้คือผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพันธกรแห่งข่าวประเสริฐ (อฟ.3:7)  (1 คร.9:16)


  6. สาวกแท้คือผู้ที่ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (กจ.1:8)  (อฟ.5:18)


  7. สาวกแท้คือผู้ที่ยอมตัวเป็นทาสรับใช้คนทั้งปวง (1 คร.9:19)


  8. สาวกแท้คือผู้ที่ทำให้คริสตจักรจำเริญขึ้น (1 คร.14:12)


  9. สาวกแท้คือผู้ที่สวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า (อฟ.6:11)


  10. สาวกแท้คือผู้ที่ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกไว้ (คส.3:12)
    แล้วคุณละเป็นสาวกแท้ของพระเยซูคริสต์แบบไหน แบบสร้างอาณาจักรเพื่อตนเองและพวกพ้องบริวารของตนเอง หรือยู่เพื่อพระคริสต์ จงทำลายเครื่องกีดขวางคณะนิกาย และหลักการของตนเอง มาสู้หลักการของพระเจ้าเดียวกัน