วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

บทความสรุป เรื่อง สัตย์ซื่อต่อความรับชอบของเรา โดย ดร.บิลลี่ เกรแฮม

ความรับผิดชอบของคริสเตียน เปรียบเหมือนการแข่งขัน
เราจะเห็นใบหน้าที่สดชื่นและกระตือรือร้นของผู้ร่วมชิงชัย เมื่อเสียงปืนบอกสัญญาณเริ่มการแข่งขันดังขึ้น แต่ระหว่างเส้นทางที่ยากลำบาก ผู้ร่วมแข่งขันจะเลิกล้มไปทีละคน    ครั้งแล้งครั้งเล่าที่พระคัมภีร์ชี้ความสนใจของเราไปยังความสัตย์ซื่อที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา และชีวิตเหนือธรรมชาติที่พระองค์ทรงให้ก่อเกิดขึ้นในเราโดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์  ฟป.1:6 เป็นข้อพระคัมภีร์ประจำใจข้อหนึ่งของผม  "ข้าพเจ้าแน่ใจในสิ่งนี้ว่า พระองค์ผู้ทรงตั้งต้นการดีไว้ในพวกท่านแล้ว จะทรงกระทำให้สำเร็จจนถึงวันแห่งพระเยซูคริสต์"
ความสัตย์ซื่อของพระเจ้าที่มีต่อเราคือสิ่งที่หนุนนำและให้พลังแก่ความสัตย์ซื่อที่เรามีต่อพระองค์ แต่ความสัตย์ซื่อต่อพระคริสต์และการรับใช้ที่เรามีต่อพระองค์ก็เป็นสิ่งสำคัญ พระคัมภีร์เตือนใจเราว่า คนที่ได้รับความไว้วางใจต้องพิสูจน์ตนด้วยความสัตย์ซื่อ และเรารู้ว่าความสัตย์ซื่อตามอย่างพระคัมภีร์เป็นอะไรที่มากกว่าการแสดงตนเป็นคริสเตียนในการทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
เครื่องหมายแห่งความสัตย์ซื่อ 4 ประการ  4 สิ่งควรสำแดงถึงความสัตย์ซื่อที่เรามีต่อพระคริสต์
1.ความชื่นชมยินดี  ความชื่นชมยินดีรในพระเจ้าซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานให้นั้น เป็นความชื่นชมยินดีเหนือธรรมชาติที่พระองค์ประทานมาเพื่อช่วยเราอดทนได้
2.ความเมตตาสงสาร   องค์กรของเราพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยคนที่ตกทุกข์ในโลกนี้ ที่ใดก็ตามที่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นเราจะพยายามไปช่วยเหลือเขา นี่คืองานของเราที่คนส่วนมากไม่รู้ เมื่อมีคนบริจาคสมทบกองทุนนี้แม้แต่บาทเดียว เงินบริจาคทั้งหมด 100% จะใช้เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ ซึ่งเราได้เริ่มมีกองทุนนี้มาหลายปีแล้ว    อัครสาวกของพระเยซูคริสต์คือท่านเปโตรได้กล่าวว่า "ในที่สุดนี้ ท่านทั้งหลายจงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นอกเห็นใจ รักกันฉันพี่น้อง มีจิตใจอ่อนโยน มีใจสุภาพ" เราต้องมีใจเมตตา
3.วิสัยทัศน์ พระเยซูพยายามที่จะยกระดับวิสัยทัศน์ของสาวกของพระองค์ตลอดเวลา พระองค์ทรงรู้ว่าวันที่ยากลำบากกำลังจะมาถึงและพระองค์ก็ทรงรู้ว่าเหล่าสาวกจะต้องเผชิญสิ่งใด    สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการดำเนินชีวิตกับพระคริสต์ทุกๆวันซึ่งเริ่มต้นด้วยการใช้เวลาตามลำพังกับพระเจ้า
4.การอุทิศตน   มาระโก 10  เราพบว่าพระเยซูคริสต์ทรงพบกับเศรษฐีหนุ่มคนหนึ่ง คุกเข่าลงต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์ "ท่านอาจารย์ผู้ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะทำประการใดจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์เป็นมรดก" เมื่อพระเยซูทรงตอบด้วยพระบัญญัติหลายประการเศรษฐีหนุ่มทูลว่า "ข้อเหล่านั้นข้าพเจ้าได้ถือรักษาไว้ตั้งแต่เป็นเด็กมา"  พระเยซูทรงเพ่งดูเขา ก็ทรงรักเขา แล้วตรัสแก่เขาว่า "ท่านยังขาดอยู่สิ่งหนึ่ง จงไปขายบรรดาสิ่งของซึ่งท่านมีอยู่ แจกจ่ายให้คนอนาถา..." แล้งจงแบกกางเขนและตามเรามา"  เมื่อเศรษฐีได้ยินคำนั้นก็เสียใจแล้วออกไปเป็นทุกข์  ...เขาทุกข์ใจเพราะเขาติดยึดกับทรัพย์สมบัติที่มีอยู่มากมาย


ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
พันธกิจข่าวประเสริฐลุ่มแม่น้ำท่าจีน
219/27 หมู่ที่ 3 ต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท 17130
โทร 080-7895164

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น